บทความ

สินสอดที่มอบให้ฝ่ายหญิงไปแล้ว หากฉกฉวยเอาคืนโดยพลการ ผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ !

รูปภาพ
สินสอดที่มอบให้ฝ่ายหญิงไปแล้ว ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของฝ่ายชาย หากฉกฉวยเอาคืนโดยพลการ ผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ! ————— #Keys : 1. ทรัพย์ตามฟ้องจะเป็นสินสอดหรือของหมั้นหรือไม่ก็ตาม (ของหมั้นให้เจ้าสาว แต่สินสอดให้พ่อตาแม่ยาย) 2. เมื่อฝ่ายชายส่งมอบและฝ่ายหญิงยึดถือครอบครองเอาในวันทำพิธีสมรสแล้ว กรรมสิทธิ์จึงเป็นของฝ่ายหญิง 3. หากไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน ฝ่ายชายสามารถใช้สิทธิเรียกร้องทางแพ่งเพื่อเรียกทรัพย์คืนได้ แต่จะไปฉกฉวยเอาทรัพย์มาโดยพลการไม่ได้ ————— #ข่าว รวบได้แล้วเจ้าบ่าวที่นำสินสอดทิพย์ 1 ล้านมาแต่งลูกสาวอดีตกำนัน รองผู้การฯเผย ยอมรับสารภาพเช่าสินสอดมาจากกรุงเทพ 1 ล้านบาทค่าเช่า 4 หมื่น เสร็จงานย่องขึ้นไปนำเงินคนคุม พ่อแม่เจ้าสาวยืนยันเอาเรื่อง ตำรวจตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/284979 ————— #คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 7868/2560 (สรุป) . . 1. โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 และให้จำเลยคืนหรือชดใช้ราคาเป็นเงิน 193,875 บาท แก่ผู้เสียหาย จำเลยให้การปฏิเสธ . . 2. ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า…จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วร

ข้อแตกต่างระหว่างความผิด ฐานกรรโชกทรัพย์ - รีดเอาทรัพย์ - ชิงทรัพย์

รูปภาพ
ฐานกรรโชกทรัพย์ - ข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือรับว่าจะให้ประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นนั้น แม้ว่าจะยังไม่ได้รับผลประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินจริงๆ ก็ตาม - เป็นการใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะทำอันตราย อย่างใดอย่างหนึ่งตามบทบัญญัติ ไว้ใน มาตรา 337 ในทันที หรือในภาคหน้าก็ได้ - การใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญ ในข้อ 2 จะกระทำต่อ ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามก็ได้ รีดเอาทรัพย์ - ข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือรับว่าจะให้ประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์ จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นนั้น แม้ว่าจะยังไม่ได้รับประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์จริงๆก็ตาม - โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับ - การกระทำในข้อ 2 ทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญ หรือบุคคลที่ สามเสียหาย ชิงทรัพย์ - เป็นการลักทรัพย์โดย ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่ว่าจะประทุษร้ายในทันที เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 339 - เป็นการกระทำต่อผู้ถูกชิงทรัพย์ โดยตรง - ผู้กระทำผิดต้องได้ทรัพย์ไป ถ้าหากไม่ได้ทรัพย์ก็เป็นความผิด ฐานพยายาม

6 เทคนิคการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ

รูปภาพ
6 เทคนิคการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้ได้ผล ใน 1 เดือน เทคนิค 6 ข้อ ที่ควรทำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้ได้ผล ใน 1 เดือน ซึ่งอาจจะมีข้อสำคัญสำหรับน้องๆ คือ การเลิก Chat ไปสักระยะ (แหม ข้อนี้ทำร้ายจิตใจกันจริงๆ นะคะ) แต่ก็นั่นล่ะค่ะ แชทมากไปก็ไม่ดี น้องๆ ก็รู้อยู่ แชทพอให้หายเครียดก็คงเป็นทางสายกลางที่น่าจะทำนะคะ.. เอ๊า มาดูกัน ว่ามีเทคนิคอะไรน่าสนใจบ้าง 1. ต้องเลิกเที่ยว เลิกดื่ม เลิกสร้างบรรยากาศที่ไม่ใช่การเตรียมสอบ เลิก chat ตอนดึกๆ เลิกเม้าท์โทรศัพท์นานๆ ตัดทุกอย่างออกไป ปลีกวิเวกได้เลย ต้องทำให้ได้ ถ้าไม่ได้อย่าคิดเลยว่าจะสอบติด ฝันไปเถอะ 2. ตัดสินใจให้เด็ดขาด ว่าต่อไปนี้จะทำเพื่ออนาคตตัวเอง บอกเพื่อน บอกพ่อแม่ บอกทุกคนว่า อย่ารบกวน ขอเวลาส่วนตัว จะเปลี่ยนชีวิต จะกำหนดชีวิตตัวเอง จะกำหนดอนาคตตัวเอง เพราะเราต้องการมีอนาคตที่กำหนดได้ด้วยตัวเอง ใช่หรือไม่ 3. ถ้าทำ 2 ข้อไม่ได้ อย่าทำข้อนี้ เพราะข้อนี้คือ ให้เขียนอนาคตตัวเองไว้เลยว่า จะเรียนต่อคณะอะไร จบแล้วจะเป็นอะไร เช่น จะเรียนพยาบาล ก็เขียนป้ายตัวใหญ่ๆ ติดไว้ข้างห้อง มองเห็นตลอดเลยว่า “เ

เรียนกับ มสธ. ดีอย่างไร

รูปภาพ
# เมื่อเรียน มสธ. จบ หลัก สูตรทุกหลักสูตรที่เปิดสอน ได้รับความเห็นชอบจากทบวงมหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ก็ได้ให้การรับรองคุณวุฒิ บัณฑิต มสธ. จึงมีศักดิ์และสิทธิ์เช่นเดียวกับ บัณฑิตของมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งอื่น ๆ ทุกประการ # เรียนด้วย ทำงานด้วย มีรายได้ นักศึกษา มสธ. สามารถประกอบอาชีพในระหว่างที่เรียนได้ # เรียนในสถาบันการศึกษาแห่งอื่นได้ในเวลาเดียวกัน นักศึกษา มสธ. สามารถศึกษาในสถาบันการศึกษาแห่งอื่นในเวลาเดียวกันได้ เพราะนักศึกษา มสธ. ไม่ต้องเข้าชั้นเรียนตามปกติ แต่สามารถเรียนได้ด้วยตนเองตามความพร้อมและความสะดวก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มพูนคุณวุฒิและช่องทางประกอบอาชีพได้กว้างขวางขึ้นเมื่อ สำเร็จการศึกษา # ประหยัด นักศึกษา มสธ. เสียค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่ำ เนื่องจากนักศึกษาสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่ เกี่ยวกับค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าเครื่องแต่งกาย ค่าตำรา ฯลฯ # สะดวก นักศึกษา มสธ. สามารถเรียนอยู่ที่บ้านหรือที่อื่น ๆ ได้สะดวก สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้จาก ห้องสมุด มุม มสธ. เข้ารับการสอนเสริม และสอบไล่หรือสอบซ่อม ณ สนามสอบและศูนย์บริการ การศึกษา มสธ. ใน

หนี้นอกระบบ !

รูปภาพ
ทำไมต้อง…นอกระบบ คนเรา เมื่อยามเดือดร้อนประเภทตกงาน (เพราะบริษัทใกล้ปิดตัวเช่นกันจ๊ะ) แม้แต่สุนัขยังเมินเลยครับ แหมที เมื่อก่อนเดินไปไหนมาไหนคนทักกันเกรียว แต่พอเราเดือดร้อนถามหยิบยืมเงินบ้าง คราวนี้ไปไหนมา ไหนมีแต่คนหลบหน้าหลบตา บางคนทำเป็นมองไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียงทัก ซึ้งจริง ครับกับคำพูดที่ว่า “มี เงินเขาเรียกน้อง มีทองเขาเรียกพี่…แต่พอไม่มีแม้แต่หมายังเมิน” เศร้าครับ จึงตัดสินใจเดินเตะกระป๋อง ไปตามท้องถนน (ทำเหมือนพระเอกในมิวสิควิดีโอในรายการโทรทัศน์ตอนดึก) และแล้วฟ้าก็มาโปรด เพราะสายตาก็ไปกระทบกับป้ายที่เขียนว่า “เงินด่วน ติดต่อ โทรฯ (0X) XXX-XXXX” จะช้าอยู่ใยพระ เจ้าประทานตัวช่วยมาแล้วโทรศัพท์ไปเลย… ดอกเบี้ย…มหาโหด ความ ฝันฟูฟ่องล่องลอยอยู่ได้ไม่นานครับ เพราะเมื่อโทรศัพท์ไปติดต่อสอบถาม หัวใจที่พองโตก็ต้องห่อเหี่ยว เพราะปลายสายโทรศัพท์ตามเบอร์เงินด่วนตอบกลับมาว่า “ดอกเบี้ยร้อยละ 30 ต่อปีนะพี่…เอาปล่าว ?” เอาไงก็เอากันแล้วครับ เพราะไปหาหยิบยืมใครก็ไม่ได้ ญาติพี่น้องก็ไม่ได้ร่ำรวย หรือจะกู้ธนาคารก็ไม่มี หลักทรัพย์ เลยตัดสินใจกัดฟันกู้เงินนอกระบบแบบนี้นี่แหละเดี๋ยวค

อารยะขัดขืน ฮิตจังไม่รู้คืออะไร

รูปภาพ
ดื้อแพ่ง หรือ อารยะขัดขืน (อังกฤษ: civil disobedience) เป็นการเรียกกิจกรรมรวม ๆ ของการเคลื่อนไหวที่จะไม่กระทำตามกฎหมาย หรือ ความต้องการและคำสั่งของรัฐบาลหรือผู้อยู่ในอำนาจ โดยไม่มีการใช้ความรุนแรงทางกายภาพ ในอดีต มีการใช้แนวทางดื้อแพ่งในการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านอังกฤษในประเทศอินเดีย ในการต่อสู้กับการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ ในการเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมืองของอเมริกา และในยุโรป รวมถึงประเทศแถบสแกนดิเนเวียในการต่อต้านการยึดครองของนาซี แนวคิดนี้ริเริ่มโดยเฮนรี เดวิด ธอโร นักเขียนชาวอเมริกันในบทความชื่อดื้อแพ่ง ในชื่อเดิมว่า การต่อต้านรัฐบาลพลเมือง ซึ่งแนวคิดที่ผลักดันบทความนี้ก็คือการพึ่งตนเอง และการที่บุคคลจะมีจุดยืนที่ถูกต้องเมื่อพวกเขา "ลงจากหลังของคนอื่น" นั่นคือ การต่อสู้กับรัฐบาลนั้นประชาชนไม่จำเป็นต้องต่อสู้ทางกายภาพ แต่ประชาชนจะต้องไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลหรือให้รัฐบาลสนับสนุนตน (ถ้าไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล) บทความนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้ที่ยึดแนวทางดื้อแพ่งนี้ ในบทความนี้ทอโรอธิบายเหตุผลที่เขาไม่ยอมจ่ายภาษีเพื่อเป็นการประท้วงระบบทาสและสงครามเม็กซิกัน-อเมริก

กฎหมายน่ารู้เกี่ยวกับยาเสพติด

รูปภาพ
กฎหมายน่ารู้เกี่ยวกับสิ่งเสพติด กฎหมายเกี่ยวกับผู้มีสิ่งเสพติดไว้ในครอบครอง กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งเสพติดมีอยู่หลายฉบับ แต่เนื่องจากบทลงโทษกำหนดไว้ สถานเบาซึ่ง เป็นเหตุให้ผู้ค้าสิ่งเสพติดไม่กลัวเกรง ต่อการกระทำผิดรวมทั้งมีหลายหน่วยงาน ในการดำเนินการ ทำให้เกิดความสับสนในทางปฏิบัติ รัฐจึงได้ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง โดยร่างพระราชบัญญัต ิยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ขึ้น ดังนั้นพระราชบัญญัต ิยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 จึงเป็นกฎหมายสำคัญในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับสิ่งเสพติด กฎหมายเกี่ยวกับผู้มี สิ่งเสพติดไว้ในครอบครอง พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 กำหนดโทษไว้ ดังนี้ มีไว้ครอบครอง มีบางมาตราบัญญัติเป็นข้อสันนิษฐานของกฎหมายไว้ว่า "ในกรณีมีเฮโรอีนไว้ในครอบ ครอง ตั้งแต่ 20 กรัมขึ้นไป กฎหมายถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ทั้งนี้มิได้หมาย ความว่า ถ้ามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองไม่ถึง 20 กรัม จะตั้งข้อหาว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อ จำหน่ายไม่ได้ ถ้ามีพยานหลักฐานอื่นที่แน่นอน ก็สามารถที่จะตั้งข้อหาได้" โทษสูงสุดถึง ประหารชีวิต โทษต่ำสุดจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน